Monday, May 9, 2011

ภาษาอังกฤษพื้นฐานเพื่อการส่งออก (Basic English for export)

ภาษาอังกฤษพื้นฐานเพื่อการส่งออก (Basic English for export)

ประเทศ ไทยเป็นอีกประเทศหนึ่งที่มีการเติบโตและพัฒนา โดยเฉพาะในช่วงปีหลังๆมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องและได้รับแรง สนับสนุนจากทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในการพัฒนาและส่งเสริมทางด้านธุรกิจโดย เฉพาะการส่งออก นอกจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่ทันสมัย การตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ได้มาตรฐานแล้ว ภาษาอังกฤษจัดได้ว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญมากในการติดต่อกับลูกค้าชาวต่างชาติ และมีความสำคัญในการติดต่อสื่อสารโต้ตอบเมื่อชาวต่างประเทศสนใจในสินค้าของ ประเทศไทยหรือติดต่อกับผู้ประกอบการคนไทย
ดังนั้นเพื่อที่จะประสบความ สำเร็จในการทำการค้าส่งออกผู้ประกอบการจึงควรเล็งเห็นถึงความสำคัญและเรียน รู้ภาษาอังกฤษพื้นฐานสำหรับการสื่อสารและการทำธุรกิจกับชาวต่างชาติเพื่อการ ส่งออก
การทักทายและการตอบรับ/ปฏิเสธแบบสั้นๆ  ดังต่อไปนี้
การทักทาย (Greetings)
     
สำนวนที่เรามักจะเห็นกันมากในการพบปะสนทนาทักทายก็จะมีดังต่อไปนี้
1. Good morning/ afternoon/ evening/ night
2. Hello/ Hi 
ใช้ทักทายในโอกาสที่ไม่เป็นทางการ
3. Good bye/ See you again/ So long / See you / Bye
ใช้เมื่อลาจากกัน
4. How do you do?
ใช้เมื่อเจอกันครั้งแรกต้องตอบว่า How do you do.
5. How are you/ have you been?/ are you doing?/ are things?/ is it going?
เป็นการถามทุกข์สุข
 
วิธีตอบก็เช่น Fine (Thank you/ Thanks)/ Very well/ Good/ All right/ So-so/ Okay/ Not bad
    
นอกจากนี้ก็ยังมีคำอวยพรสั้น   เช่น
1. Have a nice trip. (
ขอให้ได้รับความสนุกในการเดินทาง)
2. Bon Voyage.(
ภาษาฝรั่งเศส อ่าน "บง-โว-ยาจ" แปล ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ)
3. Have a nice day/ weekend.(
วันนี้/สุดสัปดาห์นี้ ขอให้ได้รับความสุขสนุกสนาน)
4. Give my regard to your mother/father.(
เรียนคุณแม่/คุณพ่อ ว่าผมกราบเคารพและระลึกถึง)
5. Remember me to your parents. (
เรียนคุณพ่อคุณแม่ของคุณด้วยว่าผมกราบเคารพ ระลึกถึง)
6. Take care.(
ดูแลตัวเองด้วยนะ)
คำตอบรับหรือปฏิเสธแบบสั้นๆ
     
ปกติที่เรามักจะเห็นบ่อยมากคงหนีไม่พ้น Yes, No ใช่ไหม แต่เราพูดแบบอื่นได้อีก เช่น
1. Certainly. (
แน่นอน) ตรงข้ามกับ Certainly not. (ไม่......แน่นอน)
2. Of course. (
แน่ล่ะ) ตรงข้ามกับ Of course not. (ไม่.....แน่ล่ะ )
3. I hope so. (
หวังว่าคงเป็นเช่นนั้น) ตรงข้ามกับ I hope not. (หวังว่าคงไม่เป็นเช่นนั้น)
4. Perhaps so. (
บางทีอาจเป็นเช่นนั้น) ตรงข้ามกับ Perhaps not. (บางทีอาจไม่เป็นเช่นนั้น)
5. I think so. (
ฉันก็คิดว่าอย่างนั้นแหละ) ตรงข้ามกับ I don't think so. (ฉันไม่คิดว่าอย่างนั้น)
6. By all means.(
ได้แน่, ไม่มีปัญหา)
7. That's right. (
ถูกแล้ว )
8. Not at all. (
ไม่เป็นไรเลย)
9. That's it. (
อย่างงั้นสิ )
10. Not yet. (
ยังเลย )
11. That's true. (
จริงๆ )
12. Very likely. (
น่าจะเป็นเช่นนั้น )
13. I see. (
อ้อ! เข้าใจละ )
การแนะนำตัว, การแนะนำผู้อื่น
   
การแนะนำตัว ( Introductions )
1. I'd like to introduce myself.   (
ฉันขอแนะนำตัวเอง)
2. I'm / My name is ................. . (
ฉันชื่อ?...)
3. Hello / Hi, my name is ............... . (
ชื่อของฉันคือ......)
4. Call me ................. . (
กรุณาเรียกฉันว่า?..)
5. I'm ................ . (
ฉันชื่อ?..)
             
การแนะนำคนอื่น ( Introducing Others )
1. Let me introduce ( you to ) ................ . (
ขอแนะนำให้รู้จักคุณ.......)
2. I'd like to introduce ( you to ) ............... . (
ขอแนะนำให้รู้จักคุณ.......)
3. I'd like you to meet ................ . (
ขอแนะนำให้พบกับคุณ.......)
4. Meet ................ . (
เชิญพบกับ........)
5. This is ................. . (
นี่คือคุณ......)
   
เวลาตอบนั้น เราอาจตอบว่า Nice to meet you. Glad to meet you. (ยินดี/ดีใจที่ได้รู้จัก) หรือ How do you do. ก็ได้

ประโยคที่ใช้กันบ่อยๆ ทาง E- mail

ประโยคซักถามเกี่ยวกับสินค้า- การสั่งซื้อ เช่น
1.   How many you have available in each variety?(
มีสินค้าอยู่เท่าไหร่ กี่ชิ้นในแต่ละรายการ)
2.   I intend to purchase some plants. Please send your availability list.(
ฉันต้องการซื้อต้นไม้บางต้น   กรุณาส่งรายการสินค้ามาให้ดูหน่อย)
3.   Kindly give me a catalogue for the mentioned address. (
ช่วยส่งแคตตาล็อก มายังที่อยู่ดังกล่าวหน่อย)

ขั้นการเสนอราคา
1.   When can I expect the merchandise?(
ฉันจะได้รับของเมื่อไหร่)
2.   Could you please let me know the price of this item?(
สินค้าชิ้นนี้ราคาเท่าไหร่)
3.   Please find attached list of items I would like to order.(
กรุณาอ่านดูรายการตามที่ได้แนบมา  ฉันต้องการสั่งซื้อ)
4.   I have visited your web site and seen your current price list. I would like to place an order with your company.(
ฉันได้เข้าไปดูเวปไซต์และเห็นราคาสินค้าของคุณ  ก็เลยอยากจะสั่งซื้อสินค้าจากทางคุณ)

ขั้นการส่งของ
1.   I have requested the flight on this coming Friday to Orlando.(
ทางเราได้จองเที่ยวบินไปยัง Orlando ไว้แล้ว เที่ยวบินในวันศุกร์ที่จะถึงนี้)
2.   We have just received confirmation of your first order.(
ทางเราเพิ่งได้รับการยืนยันคำสั่งซื้อครั้งแรกจากคุณแล้ว)
3.   What medium of transportation will you use?(
คุณจะใช้การขนส่งทางไหนดี)
4.   Please give me the status on this shipment.(
ช่วยบอกด้วยว่าตอนนี้เรื่องการส่งสินค้าไปถึงไหนแล้ว)
5.   The shipment will arrive Airport destination at 15:00 hrs. on April 9, 2003.(
สินค้าจะถึงสนามบินปลายทาง ในวันที่ 9 เมษายน  ค.ศ. 2003 นี้ เวลา  15.00 น.)

คำศัพท์ทางการส่งของ
1.   F.O.B = Free on board 
ราคาสินค้าที่ไม่รวมค่าการขนส่งสินค้าหรือค่าประกันความเสี่ยงภัยในการขนส่งสินค้า
2.   Import Permit =
ใบอนุญาตนำเข้าสินค้า
3.   Air Fright charge =
ค่าส่งสินค้าทางสายการบิน
4.   C & F = Cost and Freight =
ราคาสินค้ารวมกับค่าส่งสินค้า
5.   CIF ? cost, insurance, freight -
ราคาสินค้ารวมค่าประกันและค่าระวางในการขนส่ง
6.   Ex works/ ex factory ?
ราคาโรงงาน
7.   ETA ? expected time of arrival ?
วัน เวลา ที่คาดว่าสินค้าจะมาถึง
8.   ETD ? expected time of delivery ?
วันเวลาที่คาดว่าจะส่งออกสินค้า
9.   B/L ? bill of lading ?
ใบตราส่ง

ประโยคทั่วไปที่ใช้กันเสมอ
1.   I will keep you informed.(
แล้วฉันจะคอยแจ้งให้คุณทราบ)
2.   I look forward to your reply.(
ฉันรอคำตอบจากคุณอยู่)
3.   Sorry for your inconvenience.(
ขอโทษสำหรับความไม่สะดวกของคุณ)
4.   I have been waiting for your contact for long time. I understand that you might be busy with your company.(
ฉันรอการติดต่อกลับจากคุณมาเป็นเวลานาน  ฉันเข้าใจดีว่าคุณอาจจะกำลังไม่ว่าง ยุ่งกับบริษัทของคุณ)
5.   Thank you for your quick reply.(
ขอบคุณสำหรับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว)
4.   Thanks for your patience.(
ขอบคุณสำหรับความอดทนรอ)
5.   I am sure I will cooperate with you in the future.(
ฉันมั่นใจว่า ฉันสามารถจะร่วมงานกันคุณได้ในภายหน้า)

คำต่อว่า แสดงความผิดหวัง
1.   I am dissatisfied with your shipment. (
ฉันรู้สึกผิดหวังกับการจัดส่งของคุณ)

การชำระเงิน
1.   I request you to settle all the payments.(
ฉันขอให้คุณชำระเงินทั้งหมด)
2.   Payment will be done in cash during my visit.(
ฉันจะจ่ายเงินสดให้เรียบร้อยเมื่อผมไปที่นั่น)
3.   Do you accept credit card as a medium of payment?(
คุณรับการชำระเงินด้วยเครดิตการ์ดหรือไม่)

ประโยคลงท้ายก่อนจบการสนทนาในจดหมาย
1.   I hope that we can continue to do business.(
ฉันหวังว่า เราคงได้ทำธุรกิจร่วมกันต่อไปอีกนะ)
2.   Hope to hear from you soon.(
ฉันหวังว่าคงจะได้รับข่าวคราวจากทางคุณ โดยเร็ววัน)
3.   I will be waiting for your further information. (
ฉันจะรอข่าวคราว ข้อมูลเพิ่มจากคุณ)
4.   Thank you.  (
ขอบคุณ)

ถ้า ผู้ประกอบการติดต่อกับลูกค้า ควรเขียนอีเมล์หรือส่งแฟกซ์กลับไปแจ้งยืนยันกับลูกค้าต่างชาติอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าการสื่อสารถูกต้องและเข้าใจตรงกัน
คำศัพท์ภาษาอังกฤษ ธุรกิจก็มีความสำคัญและอาจทำให้ผู้ประกอบการเกิดความสับสนได้ ดังนั้นผู้ประกอบการควรเรียนรู้และทำความเข้าใจด้วย เช่น
Quotation ?
ใบเสนอราคา
Purchase of order ?
ใบสั่งซื้อ
Extension of Credit ?
การขยายเวลาการชำระหนี้

ผู้ ประกอบการควรศึกษาถึงเอกสารที่จำเป็นต้องแนบไปเมื่อมีการส่งออกจากประเทศไทย หรือนำเข้าในประเทศอื่น เนื่องจากสินค้าบางประเภทจำเป็นที่จะต้องมีใบรับรองจากสำนักงานอาหารและยา เช่น เครื่องสำอางบางประเภท, ยา, และ สารสกัดจากพืช เป็นต้น คำศัพท์ของเอกสารรับรอง ดังเช่น
Certificate of Origin -
ใบรับรองแหล่งผลิต
Certificate of Free Sale -
ใบรับรองอนุญาตให้ขายสินค้าภายในประเทศ
Packaging List ?
ใบบรรทุกของ
Import licence -
ใบอนุญาตนำเข้า

การ ใช้ภาษาอังกฤษนั้นจำเป็นที่จะต้องมีการฝึกฝน หากผู้ประกอบการเรียนรู้และพยายามใช้ภาษาอังกฤษทุกครั้งเมื่อมีโอกาส ก็จะสามารถพัฒนาและสามารถนำภาษาอังกฤษมาใช้ให้เกิดประโยชน์เพื่อการค้าและ การส่งออกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

 

No comments:

Post a Comment